เราควรจะเลือกซื้อ UPS แบบไหนให้ตรงกับการใช้งานมากที่สุด
ส่วนมากหลายๆท่านจะเข้าใจกันว่าการเลือกซื้อ UPS นั้นจะพิจารณาเพียงแค่ ขนาด (VA) , ระยะเวลาสำรองไป , และราคา แต่จริงๆ แล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่จะนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อ UPS ดังนี้
1 ขนาดและการนำไปใช้งาน โดยปกติ เราจะดูที่ขนาดก่อนใช่ไหมครับว่าขนาดเท่าไรจึงจะเหมาะกับคอมของเรา ทีนี้มาดูให้มันลึกลงไปอีกในเรื่องเดียวกันนี้ โดยทั่วไปนั้นคอม 1 ชุด จะใช้ไฟฟ้าประมาณ 350 - 450 VA โดยวิธีการหาค่า VA ของอุปกรณ์คอมนั้นให้ทำดังนี้ครับ
ยกตัวอย่าง เครื่องคอม และจอ 17 นิ้ว จะใช้แรงดันไฟฟ้า 220 V และใช้กระไฟฟ้าที่ 1.5 A ดังนั้นจะมีขนาดคำนวนออกมา ให้เป็นกำลังหรือค่า VA คือ 220 x 1.5 = 330 VA ส่วนอุกรณ์ที่จะนำมาต่อพ่วงเข้าไป วิธีคิดก็เหมือนกันครับ โดยสามารถ ดูได้จากคู่มือของอุปกรณ์นั้นๆ แล้วก็นำมาคำนวนดู จากนั้นนำมารวมกัน ทีนี้เราก็จะได้ขนาดของ VA ที่เราจะใช้เพื่อที่จะได้เลือก UPS ให้ตรงกับการใช้งานแล้วล่ะ
2 ระยะเวลาการสำรองไฟ [ Back Time ] หมายถึงระยะเวลาที่ UPS จะจ่ายกระแสไฟได้หลังจากที่เกิดไฟดับหรือเกินความสามารถที่ UPS จะปรับแรงดันไฟฟ้า UPS ก็จะจ่ายไฟฟ้าออกมาจากแบตเตอรี่ ซึ่งความสามารถในการจ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่นั้นต้องดูที่ Output ในส่วนของ Voltage Blackup โดยทั่วไป Back Time จะมีความสัมพันธ์กับขนาดกำลังไฟฟ้าของ UPS และขนาดกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ โดยปกติหลังจากเกิดไฟฟ้าดับ และ UPS เริ่มทำงาน เราจะใช้เวลาเพียงแค่บันทึกงานที่ค้างอยู่ และปิดเครื่องเท่านั้น ดังนั้น ระยะเวลาการสำรองไฟ อาจจะไม่จำเป็นมากนัก เช่นอาจจะนานอยู่ระหว่าง 10 - 20 นาที แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ไฟฟ้า และชนิดของแบตเตอรี่ด้วย ถ้าแบตเตอรี่เป็นแบบชนิด Hige-Rate จะสมารถสำรองไฟได้นานถึง 25 - 45 นาทีเลยทีเดียว
3 ความสามารถในการปรับแรงดันไฟฟ้า ในข้อนี้ ให้ดูตรงส่วนของ Protection ว่าสามารถปรับแรงดันให้เราได้ในระดับไหน (จะบอกค่าเป็น%) ที่เหมาะสมที่สุด จะอยู่ที่ 20 %
4 จำนวนปลั๊กไฟ คงจะไม่ใช่ทางเลือกที่สำคัญมากนัก แต่ก็ควรที่จะนำมาประกอบการตัดสินใจได้เหมือนกัน ตรงนี้ให้ดูตามความต้องการ
5 ปลั๊กต่อสำหรับสายโทรศัพท์ อันนี้จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อปกกันความเสียหายจากฟ้าผ่าได้ ถึงแม้จะได้ไม่ 100 % แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้กระแสไฟเหล่านั้น ไหลเข้าสู่เครื่องเราเต็มๆ ไม่ใช่เหรอครับ
6 ซอฟต์แวร์ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ ที่จะนำมาประกอบการเสียตังค์ของเรา เพราะปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่นำโปรแกรมมาทำงานร่วมกับ UPS ยกตัวอย่างนะครับ ถ้าเกิดไฟดับในขณะที่คุณไม่ได้ทำงานอยู่ที่หน้าเครื่อง โปรแกรมดังกล่าวจะคอยตรวจสอบ และจะช่วยบันทึกข้อมูลสำคัญไว้ แล้วก็จัดการ Shutdown เครื่องของคุณก่อนที่แบตเตอรี่จะหมด
|