มาพบกับรีวิวเครื่อง Commercial PC ของ ASUS กันอีกครั้ง โดยครั้งนี้จะเป็นรุ่น ASUS ExpertPC D3401SFF เครื่อง Tower รุ่นราคาประหยัดแต่จัดสเป็คได้ถึงรุ่นใหญ่ ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกเครื่องที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับตอบโจทย์กลุ่ม Power User ที่ต้องการ PC ประสิทธิภาพสูงสำหรับเอาไว้ทำงานทางด้านกราฟฟิก, Streaming ไปจนถึงการ Train ระบบ AI ในระดับที่ใช้การ์ดจอ 1 ใบ

ASUS ExpertPC D3401SFF: PC ทำงานรุ่นราคาประหยัดที่สเป็คไม่เล็กตามราคา

โดยทั่วไปเวลาเราได้ยินว่าเครื่องรุ่นไหนเป็น Commercial PC รุ่นราคาประหยัดหรือ Entry Level นั้น เราก็มักนึกถึงเครื่องสเป็คเล็กๆ เน้นราคาถูกๆ เพื่อให้นำไปใช้งานด้านเอกสารเป็นหลักและทำงานอย่างอื่นได้นิดๆ หน่อย แต่กับ ASUS ExpertPC D3401SFF นี้กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเครื่องนี้เป็น Commercial PC รุ่นราคาประหยัดที่สามารถจัดสเป็คแรงๆ สำหรับใช้งานหนักๆ ได้สบายๆ

ASUS ExpertPC D3401SFF นี้เป็นเครื่อง Tower ที่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ออกแบบมาเรียบหรูดูแข็งแรงทนทานเหมือนเครื่องอื่นๆ ในตระกูล ASUS ExpertPC รองรับ CPU สูงสุดถึง 9th Gen Intel Core i7 พร้อมหน่วยความจำแบบ DDR4 สูงสุด 32GB และการติดตั้ง SSD สูงสุด 512GB ทำงานคู่กับ HDD ความจุ 2TB

จุดที่โดดเด่นที่สุดของเครื่องรุ่นนี้ก็คือการที่เครื่องถูกออกแบบมาให้รองรับการติดตั้งการ์ดจอได้สูงสุดถึง NVIDIA GeForce RTX 2060 เรียกได้ว่าหากมีงานไหนที่ต้องใช้ CPU และการ์ดจอแรงๆ เครื่องนี้ก็ตอบโจทย์ได้อย่างสบายๆ

ในแง่ของความทนทาน เครื่องนี้ก็เป็นอีกเครื่องที่ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810G รองรับการใช้งานได้ถึงในระดับการทหาร และผ่านการทดสอบด้านความทนทานมากมาย ทั้งการสั่นสะเทือน, การกระแทก, การทนต่อความชื้น, การทนต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ, การตกกระแทกและการสั่นสะเทือนของหีบห่อ ลดโอกาสที่จะเกิดกรณี Dead on Arrival ได้เป็นอย่างดี

ประกันที่แถมมากับ ASUS ExpertPC D3401SFF นี้ก็เป็นแบบ 3 Year Onsite Service : บริการซ่อมถึงที่ 3 ปี, 3 Year Global Warranty : รับประกัน 3 ปีทั่วโลก และ 1 Year Perfect Warranty : รับประกันอุบัติเหตุ 1 ปีรองรับอุบัติเหตุที่อาจเกิดโดยคาดไม่ถึงมาให้ด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ASUS ExpertPC D3401SFF สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ https://www.asus.com/th/Commercial-Desktop/ASUS-ExpertPC-D3401SFF/

แกะกล่อง ลองใช้ของจริง

ในการแกะกล่องเครื่องนี้มาทดสอบก็ถือว่าไม่ลำบากมากนัก ตัวเครื่องขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ น้ำหนักประมาณ 7.5 กิโลกรัมก็ยังพอยกไปติดตั้งไหวสบายๆ

ตัวเครื่องที่ให้มานี้มาพร้อมกับสเป็ค CPU Intel Core i7-9700, RAM ขนาด 32GB, ติดตั้ง HDD และมาพร้อมกับการ์ดจอรุ่น NVIDIA GeForce GTX1660 ซึ่งก็ถือว่าเป็นรุ่นที่สเป็คสูงเพียงพอสำหรับรองรับงานหลายๆ แบบได้แล้ว และยังทำให้การทดสอบการใช้งานเห็นได้ชัดเจนว่า Workload ที่เราต้องการใช้นั้นจะใช้ทรัพยากรส่วนไหนของเครื่องบ้าง

สำหรับประสบการณ์การทดสอบจริง ก็มีดังต่อไปนี้ครับ

  • เนื่องจากเครื่องนี้ติดตั้ง HDD มาให้ใช้เท่านั้น ตอนบูทเครื่องหรือตอนอัปเดต Windows 10 เลยช้าเล็กน้อย แต่ก็ยังพอรับได้

  • ใส่แรมมาให้ 32GB เปิด Google Chrome หลายแท็บได้สบายๆ ไม่มีปัญหา

  • มี Driver และ Tool ต่างๆ เกี่ยวกับการ์ดจอมาให้ใช้งานได้เลย ไม่ต้องติดตั้งเอง แค่อัปเกรดให้ถึงรุ่นล่าสุดก็พร้อมใช้งานจริงได้แล้ว

  • ให้ NVIDIA GeForce GTX 1660 มา สามารถทดสอบเปิดวิดีโอขนาด 8k บน YouTube ได้พร้อมกันสองไฟล์ โดยยังใช้พลังประมวลผลแค่ราวๆ 50% ของการ์ดจอเท่านั้น ถือว่าดีทีเดียว



  • อัปเกรดได้ถึง NVIDIA RTX 2060 สำหรับคนที่ต้องการ Ray Tracing หรือต้องการทำงานด้าน AI อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • มีลำโพงในตัวเครื่องเลย ทำให้ประหยัดพื้นที่ติดตั้งไปอีกเล็กน้อย แต่ตอนใช้ทำงานจริงก็คงต้องเสียบหูฟังเพื่อรักษาบรรยากาศการทำงานอยู่ดี แต่นอกเวลางานก็พอจะใช้บันเทิงหรือดูหนังเล็กๆ น้อยๆ ได้

  • พอร์ตด้านหน้าเครื่องมีพอใช้งาน ให้มาทั้ง USB แบบเดิมและ USB-C


  • ด้านบนมีที่ให้มือจับ สะดวกดีเวลายกเพื่อย้ายตำแหน่งเครื่อง

  • ทำงานเสียงเงียบ ดังเฉพาะตอนบูทเครื่องหรือตอนโหลดหนักๆ เท่านั้น

  • มาพร้อม Windows 10 Home บังคับว่า Account แรกต้องผูกกับ Microsoft Account เสมอ ต่างจาก Windows 10 Pro ที่เลือกได้ว่าจะสร้างมาทำงานก่อนโดยไม่ผูกกับ Microsot Account ได้ แต่ตอนซื้อจริงสามารถเลือก Windows 10 Pro ได้

  • Bios แบบใหม่ สวยงาม ใช้เมาส์ได้แล้ว

  • ลองกด Windows Update มาจนถึงรุ่นล่าสุด ทุกอย่างปกติดีไม่มีปัญหาอะไร

สำหรับเครื่องนี้ถ้าใส่ SSD มาให้ทดสอบด้วยก็น่าจะเต็มอิ่มยิ่งขึ้นกับการทดสอบด้านประสิทธิภาพ ซึ่งหากใครจะซื้อไปใช้จริงๆ ก็ขอแนะนำให้มองเป็นรุ่น SSD เลยครับเพื่อความเร็วในการใช้งานระยะยาว ส่วนถ้าอยากได้พื้นที่เก็บไฟล์ต่างๆ ก็ลองเลือกดูว่าจะใช้ SSD ขนาด 512GB หรือติดตั้ง HDD แยกอีกลูกขนาด 2TB ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีทั้งคู่

จุดที่ประทับใจคือความพร้อมของเครื่องที่ถึงแม้เปิดครั้งแรกจะต้องมีการติดตั้งเบื้องต้นเล็กน้อย แต่พอพ้นขั้นตอนนั้นแล้วเครื่องก็พร้อมให้ใช้งานได้ทันทีด้วยเครื่องมือต่างๆ และ Driver ของการ์ดจอที่ติดตั้งมาให้จากโรงงาน ถือเป็นข้อดีของ ASUS ที่ผลิตเองทั้ง PC และการ์ดจอ ทำให้การ Integrate ระบบเข้าด้วยกันนั้นเป็นไปได้อย่างเรียบง่ายสำหรับผู้ใช้งานครับ

อีกจุดหนึ่งที่ถือว่าเป็นข้อดีมากๆ ก็คือการที่ ASUS มีเครื่องพร้อมการ์ดจอให้ทำการทดสอบได้ก่อนซื้อ ดังนั้นหากบริษัทไหนมีข้อกังวลเรื่องประสิทธิภาพของการ์ดจอ และความเข้ากันได้ของ Software สามารถติดต่อทีมงาน ASUS ได้เลยครับ

สรุปข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

  • เป็นเครื่อง Entry Level ที่จัดสเป็คให้ใหญ่มากได้ รองรับประสิทธิภาพได้หลาย Workload ในเครื่องเดียว อยู่ที่การเลือกสเป็ค Hardware ภายใน

  • รองรับการ์ดจอได้ถึง NVIDIA GeForce RTX 2060 รองรับงานได้หลากหลาย

  • มี Driver และเครื่องมือต่างๆ เกี่ยวกับการ์ดจอให้พร้อมใช้งานได้เลย สะดวกมากๆ

  • เครื่องมีขนาดใหญ่ทำให้ข้างในค่อนข้างโล่ง เปิดเครื่องมาดูแลแล้วจัดการกับสายต่างๆ ได้ง่าย

  • เป็นเครื่องแรกที่มีที่จับบนตัวเครื่องให้ ยกย้ายได้สบายในน้ำหนักเท่านี้

ข้อเสีย

  • เคสเครื่องใหญ่ไปนิดหน่อย และน้ำหนักถือว่าค่อนข้างหนัก แต่หากเทียบว่าสามารถใช้งานการ์ดจอรุ่น RTX 2060 ได้ก็ถือว่าไม่ใช่ประเด็นใหญ่นัก

  • เครื่องนี้ไม่ได้เป็นแบบ Tool-less ดังนั้นเวลาถอดเครื่องเปิดมาดูแลหรืออัปเกรดก็ยังต้องใช้ไขควงอยู่

  • เทียบกับเครื่องอื่นๆ ของ ASUS ที่เคยทดสอบถือว่ามีพอร์ต USB มาให้น้อยกว่า แต่ใช้งานจริงก็ถือว่ากำลังพอดี

  • ช่องใส่การ์ด PCI-E อยู่ด้านล่าง ดังนั้นเวลาติดตั้ง Wi-Fi แล้วเดินสายมายัง Antenna เพื่อตั้งบนตัวเครื่องสายจะรกด้านหลังเครื่องเล็กหน่อย

ติดต่อทีมงาน ASUS ประเทศไทย

สำหรับผู้ที่สนใจสินค้าของ ASUS และต้องการข้อมูลรายละเอียดต่างๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://www.asus.com/th/Commercial-Desktop/ASUS-ExpertPC-D3401SFF/